เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2566 ผู้ช่วยศาสตราจารย์พจนารถ บัวเขียว รองอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์พัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสถาบันวิจัยและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ได้ลงพื้นที่สหกรณ์การเกษตรดอนขุนห้วยจำกัด อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ดำเนินการ ประชุมเตรียมความพร้อมการพัฒนาและยกระดับการปลูกสับปะรดดอนขุนห้วยสู่มาตรฐานและการค้าเชิงพาณิชย์ ร่วมกับสหกรณ์การเกษตรดอนขุนห้วย เกษตรอำเภอชะอำ สำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัดเพชรบุรี และชุดปฏิบัติการโครงการตามพระราชประสงค์ดอนขุนห้วย โดยกิจกรรมการดำเนินงานโครงการในปีงบประมาณ 2566 นี้ มุ่งเน้นการปลูกสับปะรดสายพันธุ์แกะตา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีความหวานและเป็นเอกลักษณ์ ส่วนใหญ่ประชาชนปลูก จึงทำให้ผลผลิตล้นตลาด และสายพันธุ์ปัตตาเวียที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ปลูกเพื่อส่งโรงงาน ดังนั้นจึงได้ราคาต่ำกว่าเกณฑ์ แปลงสาธิตที่จะเกิดขึ้นจะเป็นต้นแบบของการปลูกสับปะรดปลอดภัย และสามารถนำมาทำเป็นของฝากที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ชุมชนดอนขุนห้วยอีกด้วย โครงการนี้จึงมุ่งเน้นแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างครบวงจร



















ผลิตภัณฑ์อบแห้งเชิงสร้างสรรค์แบบกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนบ้านด่านโง เพิ่มมูลค่า เพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกร
สถาบันวิจัยและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ร่วมกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี จัดโครงการพัฒนาระบบและกลไกเพื่อรองรับการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น
ภายใต้กิจกรรม : พัฒนาศักยภาพในการเป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งเสริมพลังปัญญาของชุมชนท้องถิ่น รายกิจกรรม : พัฒนาศักยภาพการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์แบบเศรษฐกิจ BCG สำหรับแหล่งเรียนรู้เพื่อสร้างพลังปัญญาของชุมชนท้องถิ่น จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตรส่งเสริมการเป็น SMART farmer จากนวัตกรรมการอบแห้งอัจฉริยะด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ตามแนวทางเศรษฐกิจ BCG ในภาคบรรยาย และภาคปฏิบัติ (Workshop)
โดยมี ฐานการเรียนรู้จำนวน 5 ฐานกิจกรรม ได้แก่
– ฐานการเรียนรู้ที่ 1 : พลังงานไฮโดรเจน
– ฐานการเรียนรู้ที่ 2 : การผลิตไฟฟ้าจากลม
– ฐานการเรียนรู้ที่ 3 : การผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์
– ฐานการเรียนรู้ที่ 4 : การต่อแผงโซล่าเซลล์
– ฐานการเรียนรู้ที่ 5 : การผลิตไฟฟ้าจากน้ำ
และจัดกิจกรรม Workshop การใช้ประโยชน์จากตู้อบแห้งแบบครัวเรือนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์โดยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนบ้านด่านโง และการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเชิงสร้างสรรค์ตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อพัฒนาชุมชนบ้านด่านโงสู่ความยั่งยืน (เป็นการนำความรู้สู่การปฏิบัติ สร้างผลลัพธ์แห่งความสำเร็จ) โดยได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการฯ เป็นจำนวนมากเพื่อเกิดสัมมาชีพและสร้างรายได้ให้กับชุมชนบ้านด่านโง วิทยากรโดย…อาจารย์ชลีดล อินยาศรี รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี และทีมงาน โดยได้รับเกียรติจาก…ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กังสดาล สกุลพงษ์มาลี คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี กล่าวเปิดงานในครั้งนี้ และได้รับเกียรติจาก… นายอนุรักษ์ ทับสมบัติ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านด่านโง กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการฯ
เมื่อวันที่ 16-17 กุมภาพันธ์ 2566 ณ หอประชุมโรงเรียนบ้านด่านโง ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
#สัมมาชีพชุมชนสร้างวิถีที่ยั่งยืน #พลังราชภัฏสู่การพัฒนาท้องถิ่น





มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีร่วมงานงานศิลปวัฒนธรรมอุดมศึกษา ครั้งที่ 21 “ยลแสง-ศิลป์ ดินแดนแห่งความสุข”
มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีร่วมงานงานศิลปวัฒนธรรมอุดมศึกษา ครั้งที่ 21 “ยลแสง-ศิลป์ ดินแดนแห่งความสุข”
🔰 วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ได้มีการจัดงานศิลปวัฒนธรรมอุดมศึกษา ครั้งที่ 21 “ยลแสง-ศิลป์ ดินแดนแห่งความสุข” ณ UBRU Happiness Stadium มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีได้ร่วมนำชุดการแสดง “มนต์เสน่ห์หัตถศิลป์ ของดีบ้านบางเค็ม” เข้าร่วมงานดังกล่าว
🙏โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์จิตสุภวัฒน์ สำราญรัตน ประธานสาขาวิชานาฏศิลป์ศึกษา และอาจารย์วิไลวรรณ ไชยลังการ อาจารย์จากสาขาวิชานาฏศิลป์ศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เป็นผู้ฝึกซ้อม
ซึ่งได้แนวคิดในการสร้างสรรค์งาน “มนต์เสน่ห์หัตถศิลป์ ของดีบ้านบางเค็ม” จากการดำรงชีวิตของชาวบ้านหมู่บ้านบางเค็ม ที่มีอาชีพเลี้ยงปลาสลิด การทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับปลาสลิด มีการจักสาน การทอผ้า การทำวุ้นมะพร้าวจากมะพร้าวน้ำหอม และการทำยาหอมที่ขึ้นชื่อ คือยาหอมวัดกุฏิ
การแสดงชุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก การดำเนินงานร่วมกันกับโครงการ U2T 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ลงพื้นที่ตำบลบางเค็ม ได้เห็นถึงการดำรงชีพอย่างพอเพียง มีการส่งเสริมอาชีพให้คนในชุมชนสร้างรายได้ให้กับชุมชน ซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรค์ของอาจารย์วิไลวรรณ ไชยลังการ อาจารย์ประจำสาขาวิชานาฏศิลป์ศึกษา คณะมนุษยศาสร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
รูปแบบในการแสดงแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่
ช่วงที่1 หมู่มวลปลาสลิด ในยามเช้า ความสมบูรณ์ของตัวปลาต่างออกมาร่ายรำ
ช่วงที่2 กระบวนการจับปลาสลิด ขั้นตอนการทำปลา ขอดเกล็ด ตากปลา เพื่อนำมาแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ และกรรมวิธีการจักสาน จนได้ผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ได้จากไม้ไผ่ และหวาย เช่น ตะกร้าหวาย
ช่วงที่3 เป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์รวม ของดีตำบลบางเค็ม
โดยมีผู้แสดงทั้งสิ้น จำนวน 12 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 8 คน
เครื่องแต่งกาย ได้แรงบันดาลใจมาจากการแต่งกายที่เรียบง่ายตามแบบชาวบ้าน
เพลงหรือดนตรี สร้างสรรค์ทำนองเพลง ดนตรีประกอบการแสดง โดยใช้เครื่องดนตรีไทยเป็นหลักในการบรรเลง ทำนองเพลง แบ่งเป็น 3 ช่วง
ช่วงที่ 1 ลักษณะทำนองเพลงเป็นจังหวะช้า สื่อถึงการแสดงภาพยามรุ่งอรุณ บรรยากาศยามเช้า
ช่วงที่ 2 เพิ่มอัตราจังหวะให้เร็วขึ้น ทำนองเพลงสื่ออารมณ์ ความสุข การหยอกล้อของชายหญิง
ช่วงที่ 3 เป็นช่วงแสดงอารมณ์เพลงที่เร็วขึ้นเพื่อดึงดูดไปสู่จุดสุดยอดของเพลง แล้วหยุดทันที กลับสู่ท่วงทำนองที่มีอัตราจังหวะช้า สื่อถึงความงดงามของการร่ายรำ และเร่งจังหวะสุดท้ายให้เร็วขึ้นที่สุดจนจบการแสดง
อุปกรณ์ : ปลาสลิด ทำด้วยโฟมแล้วทาด้วยสีทับออกแบบลวดลาย ข้องใส่ปลา สวิง ตะกร้าหวาย
ซึ่งการแสดงได้รับความชื่นชอบของผู้ชมเป็นอย่างมาก
#ฝ่ายส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม







มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีเข้าร่วมพิธีเปิดงานศิลปวัฒนธรรมอุดมศึกษา ครั้งที่ 21 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
วันที่ 17 มีนาคม 2566 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เสนาะ กลิ่นงาม มอบหมายให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พจนารถ บัวเขียว รองอธิการบดี เข้าร่วมในพิธิเปิดงานศิลปวัฒนธรรมอุดมศึกษา ครั้งที่ 21
“ยลแสง-ศิลป์ ดินแดนแห่งความสุข” ณ UBRU Happiness Stadium มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ร่วมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรรณวิภา มัธยมนันท์ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยฯ ผู้ช่วยศาสตราจารย์จิตสุภวัฒน์ สำราญรัตน ประธานสาขานาฏศิลป์ศึกษา และอาจารย์วิไลวรรณ ไชยลังการ อาจารย์สาขานาฏศิลป์ศึกษา พร้อมด้วยบุคลากรสถาบันวิจัยฯ และนักศึกษาสาขานาฏศิลป์ศึกษาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ โดยในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 นักศึกษาสาขานาฏศิลป์จะร่วมแสดงในชุด “ มนต์เสน่ห์หัตถศิลป์ ของดีบ้านบางเค็ม”
มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี มีโนบายพัฒนามหาวิทยาลัย เพื่อเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University) ผลักดันเพื่อเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวสะอาด (Green and Clean University) และเข้าสู่กระบวนการจัดอันดับมหาวิทยาสีเขียวโลก ตามระบบมาตรฐาน UI Green Metric World University Ranking และผลักดันให้หน่วยงานเข้าร่วมโครงการสำนักงานสีเขียว (Green Office) ซึ่งสถาบันวิจัยและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ให้ความสำคัญกับการดำเนินโครงการสำนักงานสีเขียว (Green Office) โดยมุ่งเน้นการจัดการสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในเรื่องการประหยัดพลังงาน การอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม และการสร้างความตระหนักรู้ด้านอนุรักษ์พลังงานให้เกิดกับบุคลากรในทุกฝ่าย ตลอดจนถึงผู้ใช้บริการสถาบันวิจัยและส่งเสริม เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ สถาบันวิจัยและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม จึงได้กำหนดมาตรการจัดการสิ่งแวดล้อมภายใต้สำนักงานสีเขียว (Green Office)
มาตรการจัดการสิ่งแวดล้อมภายใต้สำนักงานสีเขียว“SOCIAL DISTANCING” กับ 8 วิธีป้องกันโรคโควิด-19
เพื่อลดโอกาสในการสัมผัสเชื้อและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อในวงกว้าง การเพิ่มระยะห่างทางสังคม “Social Distancing” 8 วิธีปฎิบัติป้องกันโรคโควิด-19 ได้แก่
1.ห้ามไปพื้นที่แออัดต่างๆ เช่น สถานบันเทิง โรงเรียน โรงภาพยนตร์ กิจกรรมกีฬา เป็นต้น เปลี่ยนเป็นการทำงานที่บ้าน สื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต และเรียนออนไลน์
2.เปลี่ยนพฤติกรรมการแสดงความสัมพันธ์ ห้ามกอด หรือจูบ
3.หลีกเลี่ยงการเข้าไปในห้องที่แออัด ห้องประชุม/ชุมนุมขนาดใหญ่ เพื่อลดโอกาสการรับและแพร่กระจายเชื้อโรค
4.หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีคนเยอะ และใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
5.ระวังการใช้สิ่งของสาธารณะและของที่ใช้ร่วมกับผู้อื่น เช่น ราวบันได ลูกบิด รีโมทคอนโทรล ปุ่มกดลิฟท์ และล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัสสิ่งของสาธารณะ
6.ควรหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วนในสถานที่ที่มีคนเยอะ เช่น รถสาธารณะ ร้านสะดวกซื้อ
7.ควรอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ อย่างน้อย 1-2 เมตร เพื่อลดโอกาสการรับและแพร่กระจายเชื้อ และ
8.ควรอยู่ในบ้านให้มากที่สุด เมื่อไม่ออกไปรับเชื้อข้างนอกบ้าน โอกาสติดโรคน้อยลง