🗓 วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
🟢🟡 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เสนาะ กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์พจนารถ บัวเขียว รองอธิการบดีงานด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
อาจารย์ ดร.กฤษดา ตั้งชวาล รองอธิการบดีงานด้านความร่วมมือระหว่างประเทศและการจัดหารายได้
คณะผู้บริหารและบุคลากรของมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
🎉 เข้าพบนายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
📌 เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
โดยพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นพื้นที่บริการวิชาการของมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ที่เริ่มดำเนินโครงการยุทธศาสตร์การพัฒนาท้องถิ่น ตั้งแต่ปี 2564 ถึงปัจจุบัน ด้วยการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชนและหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ ประกอบด้วยโครงการหลัก จำนวน 7 โครงการดังนี้
- โครงการการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนบ้านช้างแรกสู่วิสาหกิจชุมชนต้นแบบด้านเศรษฐกิจระดับประเทศ
- โครงการการยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจฐานรากชุมชนบ้านหนองกาสู่วิสาหกิจท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- โครงการการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนบ้างปูสู่ศูนย์เรียนรู้และต้นแบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างยั่งยืน
- โครงการพัฒนาและยกระดับเศรษฐกิจฐานรากตำบลศาลาลัยสู่ต้นแบบการบริหารจัดการมะม่วงแบบครบวงจร (ด้วยการนำเนื้อมะม่วงมาสกัดเป็นสารตั้งต้น (กรดเลคติก) ในการทำเครื่องสำอาง 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ น้ำตบสกินแคร์และมาส์กหน้ามะม่วง )
- โครงการพัฒนาศักยภาพชุมชน Soft Power บนพื้นฐานอัตลักษณ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 2 ด้าน คือ ด้านการท่องเที่ยวและด้านศิลปะ ทัศนศิลป์และแฟชั่น
- โครงการยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็ก
- โครงการพัฒนาสมรรถนะภาษาอังกฤษเพื่อการยกระดับชุมชนสู่สากล
🎯🏆 สำหรับการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีจะร่วมกันกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในการวางแผนการพัฒนาด้วยการจัดทำโครงการให้ตรงตามความต้องการของชุมชน และยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมทั้งจะจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการประสานความร่วมมือทางวิชาการและปฏิบัติการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นกับทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ต่อไป